โครงสร้าง
เสาเป็นส่วนที่ทำหน้าที่รับแรงอัด (มากถึง 80-90%) โดยทำการรับแรงที่ต่ายลงมาจากโครงสร้างด้านบนเช่น คาน ผนังหรือหลังคาและส่งต่อลงไปยังโครงสร้างฐานรากและพื้นดินต่อไป โดยทั่วไปแล้วเสาจะมีรูปร่างเป็น สี่เหลี่ยมจัตุรัสเพราะสามารถทำการ
ก่อสร้าง
และจัดการพื้นที่ใช้งานภายในอาคารได้ง่าย แต่ในบางโครงการ ก็มีเสารูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้มีคุณสมบัติในการรับแรงดัดช่วยโครงสร้างคาน นอกจากแรงอัดที่มากขึ้น เช่น รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ในการออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างเสา หากต้องการให้เสามีขนาดเล็กลง แรงอัดที่มากขึ้น เช่น รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแต่ยังคงรับแรงได้เท่าเดิมหรือดีขึ้น การเลือกใช้เป็นโครงสร้างเหล็ก H-BEAM ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลย เพราะเหล็ก H-BEAM มีพื้นที่หน้าตัดที่ความลึกเท่ากับความกว้างทำให้มีคุณสมบัติในการรับแรงอัดได้ดี หรือหากต้องการให้รับแรงได้มากขึ้นก็สามารถเลือทใช้เป็นเกรด SM520 ได้ ซึ่งการเลือกโครงสร้างเหล็กมาใช้งาน จะทำให้ได้เสาที่มีขนาดเล็กมากกว่าการใช้เสาคอนกรีต ใน Span เสาระยะเท่ากัน ส่งผลให้ออกแบบงานสถาปัตยกรรมและพื้นที่ใช้สอยภายในอาคารได้ลงตัวมากขี้น
คาน
ของอาคารเป็นโครงสร้างที่ทำหน้าที่รับแรงดัดเป็นหลัก รวมถึงรับแรงเฉือนด้วยโดยแรงดัดที่ว่านี้ คือ แรงที่กระทำแล้วทำให้โครงสร้างเกิดการแอ่นตัว เช่น แรงที่กดลงมาจนทำให้คานเกิดการหย่อนท้องช้าง ส่วนแรงเฉือนคือแรงที่กระทำลงที่จุด ๆ หนึ่งในลักษณะที่คานถูกเฉือนเอาจากกัน คล้ายกับ การที่เราใช้มีดเฉือนหั่นแตงกวาแรงเหล่านี้มาจากน้ำหนักบรรทุกที่
เกิดขึ้นบนโครงสร้าง เช่น น้ำหนักของเฟอร์นิเจอร์ สิ่งของที่ตั้งอยู่าวรรวมไปถึงน้ำหนักบรรทุกจรที่เกิดขึ้นในบางครั้ง เช่น น้ำหนักของคนที่เข้าไปใช้งานรวมถึงน้ำหนักบรรทุกคงที่ ซึ่งก็คือน้ำหนักของ ตัววัสดุของโครงสร้างเองด้วย
ดีไซน์เนอร์
บางครั้งคานก็เป็นชิ้นส่วนโครงสร้างที่ทำให้งานดีไซน์หรือการวางระบบติดขัด เพราะต้องทำการเดินท่อหลบตามความลึกของคาน จึงเสียระยะ Floor to Ceiling ไป ซึ่งต้าไม่อยากเสียความสูงโปร่งของห้องหรือต้องการเดินท่อได้สะดวก ก็สามารถเลือกใช้เป็นโครงสร้างเหล็กในรูปแบบ H-BEAM หรือ Cellular Beam ได้ เพราะคาน H-BEAM มีขนาดที่เล็กกว่าคานคอนทรีต ทำให้ระยะ Floor to Ceiling ไม่โดยกดลงมาจนรู้สึกอึดอัดและคานแบบ Cellular Beam ที่มีรูปตรงกลาง ยังทำให้เดินท่อผ่านได้เลยไม่ต้องเลี้ยวท่อหลบคาน
โครงสร้างหลังคา
เป็นส่วนที่ทำหน้าที่รับแรงคล้ายกับคานแต่จะมีการรับแรงดัดน้อยกว่าและไม่ค่อยมีแรงเฉือนโดยทั่วไปโครงสร้างหลังคาจะมี 2 แบบหลัก ๆ คือ โครงสร้าง ที่ออกแบบมาเพื่อรับดาดฟ้าคอนทรีต ซึ่งมีลักษณะคล้ายคาน รับพื้น และโครงสร้างรับวัสดุมุงหลังคา ซึ่งปริมาณของแรงดัด ที่กระทำต่อหลังคาจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมามุง ยิ่งมีน้ำหนักมากองศาซันมากก็จะยิ่งมีแรงดัดมากตามไปด้วย และนอกจากมีแรง ที่กระทำจากด้านบนแล้ว ยังมีแรงลมที่มีกระทำด้านข้างด้วยการออกแบบจึงต้องคำนวณเผื่อจุดนี้เพิ่มเติม